วันศุกร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2553

o^0^o ชิฟฟ่อนใบเตยมะพร้าวอ่อน

เพิ่งตัดใบเตยมาค่ะ ก็เลยต้องหาขนมสูตรที่ใช้ใบเตยเป็นส่วนผสม ค้นไปค้นมาก็เจอสูตรชิฟฟ่อนจากบล็อกแม่สลิ่มค่ะ


ส่วนผสมชิฟฟ่อนใบเตย
ส่วนผสม A :
แป้งเค้ก 100 กรัม
ผงฟู 3 กรัม
น้ำตาลทรายป่น 30 กรัม

ส่วนผสม B :
ไข่แดง(เบอร์ 1) 3 ฟอง
น้ำมันพืช 100 กรัม
นมข้นจืด 70 กรัม
น้ำใบเตย 40 กรัม
เกลือ 1/4 ช้อนชา
ส่วนผสม C :
ไข่ขาว 3 ฟอง
ครีมออฟทาร์ทาร์ 1/4 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 40 กรัม

Tips : น้ำใบเตยคั้น ทำได้โดยนำใบเตย 4-5 ใบมาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ใส่น้ำลงไปนิดหน่อย ปั่นรวมกัน แล้วนำมากรอง จะได้น้ำใบเตยหอม
ลงมือทำ
นำส่วนผสม A มาร่อนรวมกันใส่ในชามผสมขนาดกลาง แล้วทำเป็นหลุมตรงกลางทิ้งไว้
ส่วนผสม B : ใส่ไข่แดงลงในชามใบเล็ก เทน้ำมันพืชลงไปคนให้เข้ากัน ตามด้วย นมข้นจืด น้ำใบเตยและเกลือ คนให้เข้ากัน




นำส่วนผสม B เทลงในชามส่วนผสม A คนเร็ว ๆ ให้เข้ากัน ไม่คนนาน




ส่วนผสม C : ตีไข่ขาวกับครีมออฟทาร์ทาร์จนขึ้นฟองหยาบ เติมน้ำตาลทรายลงไป ตีต่อจนตั้งยอดแข็ง
ตักไข่ขาวส่วนหนึ่งใส่ลงในส่วนผสมไข่แดง คนให้เข้ากัน แล้วเทกลับลงไปในส่วนผสมไข่ขาวที่เหลือ คนให้เข้ากัน ไม่คนแรงนะจ๊ะ




เทใส่พิมพ์ถาดขนาด 11" x 15" ได้ 1 ถาด (ถ้ามีถาดเล็กกว่านี้ จะแบ่งส่วนผสมเป็น 2 ถาดก็ได้นะจ๊ะ) เกลี่ยขนมให้เสมอกันทั่วทั้ง พิมพ์ เคาะก้นพิมพ์เบา ๆ
นำเข้าอบ 180C ประมาณ 12 - 15 นาที หรือจนกระทั่งสุก ขนมสุก เอาออกจากเตาแล้วทิ้งไว้ให้เย็น ค่อยเอาออกจากพิมพ์
สุกแล้วจ้า ~~~
อันนี้ด้านหน้า


อันนี้ด้านหลัง
เค้กบางไปหน่อยแฮะ...สงสัยคนส่วนผสมนานไป
ทำไส้บัตเตอร์ครีมมะพร้าวอ่อนดีกว่า

เนยขาว 200 กรัม
น้ำตาลไอซิ่ง 1 ถ้วย
นมข้นจืด 1/2 ถ้วย
เนื้อมะพร้าวอ่อนที่เราขูดไว้ 1-2 ลูก แล้วแต่ชอบจ๊ะ
Tip : ก่อนทำตัวเค้ก ขูดมะพร้าวอ่่อนแล้วแช่ตู้เย็นไว้ก่อน

ตีเนยขาวจนอ่อนตัว ใส่น้ำตาล ตีจนขึ้นฟู ปาดอ่างเป็นระยะ ๆ

ค่อย ๆ เทนมข้นเป็นสายเล็ก ๆ ลงในเนยจนหมด ตีต่อไป พร้อมปาดอ่างเป็นระยะ ตีจนขึ้นฟูดี เปลี่ยนเป็นความเร็วต่ำ ใส่เนื้อมะพร้าวลงผสมให้เข้ากัน ปิดเครื่อง


ประกบร่างเค้ก
ถ้าทำเค้กแค่หนึ่งพิมพ์ ให้นำเค้กที่เย็นแล้วมาแบ่งครึ่งเป็น 2 ส่วน ปาดบัตเตอร์ครีมมะพร้าวอ่อนลงบนส่วนหนึ่ง แล้วเอาส่วนที่เหลือขึ้นประกบ แต่ถ้าแบ่งทำเป็น 2 ถาด ให้ปาดบัตเตอร์คครีมบนเค้กถาดหนึ่ง แล้วเอาอีกถาดประกบได้เลย
หั่นแบ่งเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมตามขนาดที่ต้องการก่อน แล้วค่อนหั่นทแยงมุมให้เป็นสามเหลี่ยม
เค้กเสร็จ พร้อมหม่ำแล้วค่า ~~~




วันพุธที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2553

Fudge Brownie บราวนี้หน้ากรอบที่เนื้อหนุบหนับ สูตรดี ๆ จากแม่บัดดี้ค่ะ

สูตรนี้การันตีความอร่อย

ส่วนผสมตามนี้เลยค่ะ

- เนย 3/4 ถ้วย ( 150 กรัม)

- น้ำตาลทราย 1 1/2 ถ้วย (270 g.) ลดเหลือ 225 กรัมรึจะลดเหลือแค่ 200 กรัมก็ได้ค่ะ

- ไข่ 2 ฟอง

- วานิลลา 3 ช้อนชา(1ชต.)

- ผงโกโก้ 1/2 ถ้วย (32.5 g.)

- แป้งอเนกประสงค์ 3/4 ถ้วย (72 g.)

- ถั่วอัลมอนด์ 3/4 ถ้วย อันนี้เปลี่ยนได้ตามใจชอบ เราชอบใช้เม็ดมะม่วงฯ ,แมคคาเดเมียแทนค่ะ

- ช็อคโกแล็ตชิพ 1 ถ้วย ถ้าใช้ทิวลิปจะลดเหลือ3/4ถ.เพราะช็อกชิพยี่ห้อนี่หวาน แต่ถ้าเป็นพวก Dark รึ Semi Sweet ของเฮอร์ชี่จะไม่ลดค่ะ

วิธีทำ

วอร์มเตาอบ 175 องศาซี เอาเนยมาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วนำไปละลายค่ะ

เมื่อเนยละลายแล้วปิดไฟยกลงจากเตาค่อย ๆ เทน้ำตาลทรายลงไปผสมใช้ตระกร้อมือคนให้เนยกับน้ำตาลเข้ากันน้ำตาลไม่ละลายหมดนะคะ มันจะเกาะเป็นกระจุก ๆใส่ไข่และกลิ่นวนิลาลงไป ใครใช้วนิลาผงใส่ลงไปพร้อมแป้งนะคะใช้ตระกร้อมือคนให้เข้ากันค่ะใส่ผงโก้โก้และแป้ง ไม่ต้องร่อนนะคะ คนแรงๆ เร็วๆ ซัก 2-3 นาทีใส่ถั่วและช็อคชิพตามลงไป ผสมให้เข้ากันเป็นอันเสร็จพิธี ลืมบอกไปต้องเตรียมพิมพ์ไว้ก่อนลงมือทำนะคะเราเปลี่ยนพิมพ์ไปเรื่อยค่ะ บางทีก็ใช้ถาด 8*8 เราว่า9*9บราวนี่มันเตี้ยไปหน่อย ชอบหนา ๆ ทาเนยปูกระดาษไขและทาเนยทับอีกรอบค่ะเทส่วนผสมใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้ส่งเข้าเตาอบเราใช้ไฟล่างวางถาดไว้แถวกลาง อบไปซัก20นาทีค่อยเปิดพัดลมแล้วอบต่อเตาใครเตามันนะคะ แต่เตาเราถ้าไม่เปิดพัดลมหน้าจะไม่กรอบหมั่นคอยเช็กสุกอยู่เสมอ บราวนี่นี่สำคัญตอนอบค่ะ เอาแค่เห็นเศษเค้กติดไม้ออกมาก็เอาออกได้แล้วค่ะเราใช้เวลาอบราว ๆ 40 นาทีได้ เพราะใส่พิมพ์รูปหัวใจ บราวนี่ที่ได้จะหนากว่าทำใส่ถาดเหลี่ยมค่ะ ทำให้ต้องอบนานขึ้น เวลาเอาขนมออกจากเตาให้วางให้คลายร้อนแป๊บเดียว ประมาณ 1 นาทีแล้วเอามีดแซะรอบ ๆ พิมพ์เพื่อให้ขนมไม่ติดพิมพ์ จับคว่ำลงตระแกรง ลอกกระดาษไขออกเลย ถ้ารอนานกระดาษไขจะติดที่เนื้อขนมเอาออกยากมากค่ะ

Orange Chiffon Cake




สูตร


7 ฟอง ไข่ไก่ แยกไข่แดงไข่ขาว


2 1/4 ถ. แป้งเค็กร่อน


1 1/12 ถ. น้ำตาลทรายเม็ดเล็ก


1 ช.ต. ผงฟู


1/2 ช.ช. เกลือป่น


1/2 ถ. น้ำมันพืช หรือ น้ำมันดอกทานตะวัน


3/4 ถ. น้ำส้มคั้น2 ช.ต. ผิวส้มขูด


1 ช.ช. เหล้ากลิ่นส้ม หรือ วนิลลา


3/4 ช.ช. ครีมออฟทาร์ทา


เปิดเตาอบ 325 F (170 C)


พิมพ์ขนาด 9 นิ้ว ไม่ต้องทาไขมัน


วิธีทำ


- แยกไข่แดงไข่ขาว


- ตวงน้ำตาลให้ครบ 1 1/2 ถ. แล้วตักออก 3 ช.ต. พักไว้


- ตีไข่แดงด้วยตะกร้อมือ ให้เข้ากัน แล้วค่อยๆ เติม น้ำมัน และ น้ำตาลทราย ผิวส้มขูด ลงไป คนให้เข้ากันพักไว้ (ส่วนผสมที่ 1)


- นำแป้งเค็ก ผสม ผงฟู เกลือป่น ร่อนรวมกัน แล้วนำไป ตล่อมให้เข้ากับ ส่วนผสมที่ 1 ให้เข้ากัน พักไว้


- นำไข่ขาว ผสม ครีมออฟทาร์ทา ตีด้วยความเร็วสูง จนไข่ขาวเริ่มตั้งยอด ค่อยๆ เติมน้ำตาลทราย 3 ช.ต. ที่เราตักออกไว้ จนตั้งยอด


- นำไข่ขาว ไปผสม กับ แป้งและไข่แดงที่พักๆไว้ ตล่อมให้เข้ากัน


- ตักใส่พิมพ์ 9 นิ้ว นำอบ ประมาณ 50 - 60 นาที หรือ จนขนมเค็กจิ้มไม่ติดไม้


- นำออกมาพักไว้ ก่อนนำออกจากพิมพ์ ประมาณ 1 -1 1/2 ช.ม. *** ควรควรระวัง ห้ามทาพิมพ์ด้วยไขมัน **** ไม่ต้องกลัวเค็กติดพิมพ์คะ อาจจะติดนิดหน่อย เพราะถ้าทาไขมันที่พิมพ์ เค็กจะไม่ค่อยขึ้น และเวลาอบสุกแล้ว เค็กขอบเค็กจะย่น ก่อนนำเค็กออกจากพิมพ์ ใช้ปลายมีดค่อยๆ แซะขอบเค็กเสียก่อน แล้วค่อยเคาะเค็กออกจากพิมพ์ *** ถ้าน้ำตาลทรายเม็ดใหญ่ ควรนำเข้าเครื่องปั่นพอหยาบๆ

ขนมปังกรอบหน้ากุ้งแห้ง+กระเทียม







ในการทำ ควรใช้ขนมปังเก่า แต่ไม่ใช้ขึ้นรานะคะ เพราะขนมปังเก่าเวลาอบมันจะกรอบกว่า ขนมปังที่ใหม่ๆ และไม่ควรตัดขอบทิ้ง เพราะ ถ้าตัดขอบทิ้งแล้ว มันจะไม่ค่อยกรอบนาน ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกันคะ ควรใช้ มาการีน จะดีกว่าเนยสด เพราะเนยสด เวลาอบขนมปังกระเทียมมันจะไม่ค่อยกรอบเหมือนกัน และ พอเก็บไว้นาน กลิ่นจะเหม็นหืนเร็วกว่ามาการีน
สูตร
มาการีน 1/2 ก.ก.
น้ำตาลทราย 700 กรัม
กระเทียมตำละเอียด 2 ช.ต.
กุ้งแห้งป่นละเอียพ 2 ขึด
เกลือป่น 1 ช.ต.
- ผสมทุกอย่างพร้อมกัน ใช้หัวตีรูปใบไม้ ตี ด้วยความเร็วต้ำ จนเข้ากัน ประมาณ 5-7 นาที
- นำมาทาขนมปัง แล้วเด็ดใบผักชี แปะหน้าขนมปังที่ทางแล้ว นำอบ ด้วยไฟ 350 F ประมาณ 7- 10 นาท หรือแล้วแต่ความร้อนเตาอบของเพื่อนๆ ด้วย การสังเกตุอีกวิธีหนึ่ง คือ พลิกขนมปังด้านล่างดู ถ้ามันเหลืองแล้ว ก็ใช้ได้คะ อย่าอบนานเกินไป มันจะกลายเป็นขนมปังแข็งและไม่กรอบ หรือแตะหน้าขนมปังดู ว่าหน้ามันแห้งๆ ก็เอาออกได้เลยคะไม่ต้องตกใจว่าทำไมขนมปังตอนเอาออกมาจากเตาใหม่ๆ มันนิ่ม เดี่ยวเราทิ้งไว้ให้เย็นบนตะแกรง มันก็จะกรอบเองคะ และพอมันเย็นสนิท ต้องรีบนำใส่ถุง หรือขวดโหลทันที ไม่งั้น ถ้าปล่อยไว้นาน ขนมปังก็จะกลับมาดูดความชื่นจากอากาศอีก ทำให้ขนมปังเหนียวและไม่กรอบคะ
- กระเทียม ใช้ตำเอาคะ เพราะเวลาเราตำ น้ำมันหอมระเหยจากกระเทียมจะแตกมากกว่า การใช้เครื่องบด ทำให้ขนมปังกลิ่นหอมกระเทียมกว่าด้วยคะ

เค้กกล้วหอมสูตรสะท้านบู๊ลิ้ม ของป้าโพระดกค่ะ


เปิดเตาอบ 350 F
สูตร
1 ถ. แป้งเค็ก
1/4 ช.ช. เกลือป่น
1/2 ช.ช. เบกิ้งโซดา
1/2 ช.ช. ผงฟู
1/2 ถ. น้ำตาลทราย
1 ฟอง ไข่ไก่ ใช้เบอร์ใหญ่ (large) ที่อุณหภูมิห้อง
1/4 ถ. เนยละลาย (ตาใช้เนยชนิดจึด)
4 ช.ค. น้ำเปล่า
1 ช.ช. วนิลลา
3/4 ถ. กล้วยหอมบด
วิธีทำ
1. ร่อนแป้ง ผงฟู เกลือ โซดา ร่อนร่วมกัน พักไว้
2. ตีไข่ให้ขึ้นฟู ใช้ความเร็วปานกลาง พอไข่ขึ้นแล้ว ค่อยๆ เติมน้ำตาลทราย จนหมด ประมาณ 5 นาที
3. ค่อยๆ เติมเนยละลายลงไป ตีต่ออีกไป 1 นาที
4. หลังจากนั้น ค่อยเติม กล้วยหอมบอ พอใส่หมดแล้ว ตาเติมกลิ่นวนิลลา
5. หลังจากนั้น ตาหยุดเครื่องคะ ตาเอาออกมาผสมข้างนอก โดยค่อยๆ ใส่แป้ง ตล่อมให้เข้ากัน สลับกับน้ำเปล่า จนหมด จบด้วยแป้ง อย่าคนนานนะคะ เดี่ยวแป้งจะเหนียว พออบแล้ว เนื้อเค็กจะแน่น
6. ตักใส่พิมพ์ ถ้าเป็นพิมพ์ Muffin จะทำได้ 12 ถ. แต่ตาเอาใส่ Loaf คะ
7. นำไปอบด้วยไฟ 350 F 30-45 นาที เมื่อเอาไม้จิ้มแล้วไม่ติดไม้ ก็นำออกมาพักใส่ตระแกรงประมาณ 5 นาที ก่อนแกะออกจากพิมพ์ พักไว้ให้เย็นคะ

วันอังคารที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2553

My mother in law Biscuits


เป็นสูตร ของแม่สามีขอบพี่ตา(The Natural State, United States )ฝรั่งทางใต้ เค้านิยมทาน Biscuits กว่า ขนมปัง ส่วนมาแทบทุกบ้านตามชนบท เค้าจะทำ Biscuits เอง เหมือน คนไทยต้องหุ้งข้าวนั้นแหละคะ ส่วนมากแม่สามีของพี่ตาไม่ชอบใช้พิมพ์กด เวลาโรลแป้งเสร็จ ก็จะเอาใส่กระทะเหล็กหนักๆ แล้วเอาเข้าเตาอบ เธอทำทุกวันแป้งก็จะผสมกับเนยขาว ตีไว้ที่ละเยอะๆ เก็บไว้ทำเป็นอาทิตย์ พอจะเอามาทำ ก็ตักออกมา แล้วค่อยมาผสมนมตามส่วนที่ทำ ถ้าหมดก็ผสมเก็บไว้ใหม่

สูตรง่ายมากคะ เปิดเตาอบ 450 F

สูตร

2 ถ. แป้งสาลีอเนกประสงค์

4 ช.ช. ผงฟู

1 ช.ช. เกลือป่น

1 ถ. เนยขาว

1 ถ. ButterMilk หรือ นมสดชนิดจืด

วิธีทำ

1. เอาแป้งผสมผงฟู เกลือ ตีในโถ ใช้หัวใบไม้ตีนะคะ ด้วยความเร็วต่ำ ประมาณ 1 นาที

2. หลังจากนั้น เอาเนยขาวใส่ลงไป ผสมให้เข้ากัน ด้วยความเร็วต่ำ จนแป้งร่วน

3. ค่อยๆ ใส่ Butter Milk แป้งจะแฉะ ไม่ต้องตกใจ เอาแค่ผสมเข้ากันเท่านั้น อย่าตีนาน Biscuits ที่ดี ต้องมีเนื้อหยาบ ไม่ใช่เนื้อแป้งเนียนเหมือนขนมปัง

4. เราแป้งสาลี ใส่แร่ง ร่อนลงพื้นที่เราต้องการโรลให้ทั่ว ต้องโรยแป้งแยอะๆ นะคะ

5. ใช้พายยาง ตักโดว์ออกมาก วาง แล้วเอาแป้งสาลี ร่อนใส่หน้าโดว์อีกที ต้องใส่แยอะหน่อยนะคะ

6. หลังจากนั้นค่อยโรลจาก ตรงกลางแป้งโดว์ ออกไปที่ละด้าน กดเบาๆ อย่ารีดแป้งนะคะ เดียว Biscuits ไม่ฟู

7. โรลแป้งให้หนาประมาณ 1 นิ้ว หรือ 1.5 นิ้ว

8. ใช้พิมพ์คุกกี้ กด แล้วนำเข้าเตาเอบ ประมาณ 10-15 นาที

9. นำออกมาแล้วทาด้วย เนยละลาย ส่วนมาก ตาชอบกินกับ Apple Butter แช่เย็นๆ แล้วมาทา อร่อยมากคะ

สาลี่กรอบ


เปิดเตาอบ 350 F

สูตร

1 1/2 ถ. แป้งสาลีเอนกประสงค์

1 3/4 ถ. น้ำตาลทราย

3 ฟอง ไข่ไก่ เบอร์ใหญ่ อุณภูมิห้อง

3 ช.ต. น้ำเปล่า

1 ช.ช. วนิลลา

1 ช.ต. น้ำมะนาว

2 - 3 ถ. มะพร้าวขูดขาว

พิมพ์กระดาษ

วิธีทำ

- นำไข่ใส่โถ เติมน้ำมะนาว ดีด้วยความเร็วปานกลางจนขึ้น

- หลังจากนั้น ค่อยๆ ใส่น้ำตาลทรายจนหมด

- หลังจากนั้น ค่อยๆ เติมน้ำเปล่าทีละช้อนจนหมด ตามด้วย วนิลลา

หลังจากนั้น ค่อยๆ ร่อนแป้งใส่ ที่ละครึ่ง ตะล่อมให้เข้ากัน และ เติมมะพร้าวตล่อมให้เข้าก้น ตักใส่พิมพ์ นำเข้าอบ ประมาณ 15- 25 นาที หรือจนกระทั่งขนมจิ้มแล้วไม่ติดไม้

** เคล็ดไม่ลับ***

1. เวลาตึไม่ควรใช้ความเร็วสูง เพราะจะทำให้อากาศเข้าไปในเนี้อไข่ มากเกินไป เวลาอบแล้ว ขนมจะพองมากและเป็นโพรง

2. ถ้าใช้มะพร้าวที่มีรสหวาน จะลดน้ำตาลทรายลง ก็ได้คะ

3. ถ้าส่วนผสมเหลวเกินไป ก็ค่อยเติมมะพร้าวเพิ่มทีละน้อย หรือส่วนผสมแห้ง ก็เติมน้ำเปล่าลงไปอีกสัก 1 - 2 ช.ต. ก็ได้คะ

4. ถ้าจะเปลี่ยนน้ำเปล่า เป็นน้ำกะทิก้ได้คะ แต่ขนมจะไม่กรอบนาน


การตีใข่ ไม่ได้ตีจนเป็น Ribbon stage นะคะ ไม่เหมือน สปองค์เค็ก เพราะในสูตรไม่มีส่วนผสมของผงฟู เพราะถ้าตีมากจนเกินไป จะทำให้ขนมเป็นโพรงข้างในคะ เพราะเราไม่ได้ใส่ผงฟูเป็นตัวช่วยเพี่มฟองอากาศ และไม่ควรใช้ความเร็วสูงด้วย การตีไข่ในสูตรนี้พี่ตาใช้ ความเร็วปานกลาง เมี่อไข่เริ่มขี้นและเนียนละเอียด ก็ค่อยๆ เริ่มใส่น้ำตาลทรายที่ละช้อน จนหมดคะ เมื่อใส่น้ำตาลทรายหมดแล้ว จะสังเกตุได้ว่า เนื้อไข่จะหนีดๆ และข้น ฉะนั้น จึงเติมน้ำเปล่าลงไปเพื่อช่วยลดความหนีด

เบื่อ"บราวนี่" กันรึยังเอ่ย.....?


ส่วนผสม

1. เนยจืด(unsalted butter) 6 ช้อนโต๊ะ หรือ 85 กรัม ตัดเป็นชิ้นเล็กๆ จะได้ละลายง่ายๆ

2. Semisweet chocolate chips 2 ถ้วยตวง

3. น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย(ควรใช้น้ำตาลทรายเม็ดละเอียด)

4. ไข่ขนาดใหญ่ 3 ฟอง

5. ผงกาแฟ(Instant coffee granules) 1 ช้อนชา

6. วนิลา ½ ช้อนชา

7. แป้งเอนกประสงค์ ½ ถ้วย

8. ผงฟู ¼ ช้อนชา

9. เกลือ 1/4 ช้อนชา

10. ถั่ววอลนัทสับหยาบๆ 1 ถ้วย(ถ้าไม่ชอบก็ไม่ต้องใส่)

วิธีทำเปิดเตาอบวอร์มไว้เลยนะคะ ที่ 350F หรือ 180C

1. ล่อนแป้ง ผงฟู เข้าด้วยกัน และใส่เกลือ เตรียมไว้ก่อน

2. ลองถาดด้วยอลูมิเนี่ยมฟอยล์ขนาด 8x8 นิ้ว และทาด้วยเนยและโรยด้วยแป้งให้ทั่วๆ ขนมจะได้ไม่ติด

3. ตุ๋นช๊อกโกแล็ต โดยใส่น้ำลงในหม้อนิดหน่อย ตั้งไฟจนเดือด เสร็จแล้วลดเป็นไฟอ่อนแค่เดือดปุดๆ วางถ้วยแก้วลงบนปากหม้อ อย่าให้ก้นถ้วยโดนน้ำ จากนั้นใส่เนยและช๊อกฯ ชิพ 2 ถ้วย ลงไป คนจนช๊อกฯ และเนยละลายเป็นเนื้อเดียวกัน ปิดไฟและยกถ้วยออก

4. ใส่น้ำตาลทรายลงในถ้วยช๊อกโกแล็ต คนให้เข้ากันด้วยตะกร้อมือ(ไม่ต้องให้น้ำตาลละลาย)

5. ใส่ไข่ ผงกาแฟ วนิลา ลงไป คนให้เข้ากันอีกครั้งด้วยตะกร้อมือ(คนแค่พอเข้ากันก็พอ ไม่ต้องคนนาน)

6. ใส่แป้ง ผงฟู และเกลือที่เตรียมไว้ลงไป คนให้เข้ากัน อย่าคนนานเพราะจะทำให้เนื้อบราวนี่เหนียว

7. ใส่ถั่ววอลนัท 1 ถ้วย ใช้พายยางคนให้เข้ากัน

8. เทส่วนผสมลงในถาดที่เตรียมไว้ อบด้วยไฟ 350F ประมาณ 25-30 นาที หรือเช็คโดยใช้ไม้ จิ้มลงตรงกลาง ดึงขึ้นมาให้มีเนื้อเหนียวๆ ของบราวนี่ติดมาด้วย อย่าอบนานเกินไป เพราะเนื้อขนมจะแห้งและร่วน กินไม่อร่อย

9. ยกบราวนี่ออกจากเตา วางบนตะแกรงทิ้งไว้ให้เย็นสนิท แล้วค่อยลงมือตัดเป็นชิ้น*** ถ้าใช้ถาดใหญ่กว่านี้ ก็จะได้เนื้อบราวนี่ที่บางและต้องลดเวลาในการอบให้สั้นลง*** ถ้าไม่มีถาดสีเหลี่ยมขนาด 8x8 นิ้ว จะใช้ถาดอบเค้กขนาด 9 นิ้วแทนก็ได้ค่ะ*** อย่าตีไข่นานจนขึ้นฟู จะทำให้เนื้อบราวนี่ฟูเหมือนเค้ก ไม่เหนียวหนึบ*** หลังจากอบบราวนี่เสร็จแล้ว ควรทิ้งให้เย็นสนิทและเซ็ตตัวก่อน จะทำให้ตัดง่าย และได้รสชาติที่แท้จริง*** ควรใช้น้ำตาลทรายเม็ดละเอียด หรือน้ำตาลสำหรับทำเบเกอร์รี่โดยเฉพาะจะได้ละลายง่าย

ถ้าอยากได้เนื้อบราวนี่หนึบๆ ฉ่ำๆ แบบนี้ ก็อย่าอบนานเกินไปนะคะ

Chewy Cocoa Brownies สูตรง่ายๆ ของ Toll House


ส่วนผสม

1. น้ำตาลทราย(เลือกที่เม็ดเล็กๆ นะคะ) 1, 2/3 ถ้วยตวง(ไม่ต้องกลัวหวานนะคะ รับรองว่าไม่หวานมาก)

2. เนย ¾ ถ้วย หรือ ประมาณ 170 กรัม(ละลาย) ชั่งก่อนแล้วค่อยนำไปละลาย

3. น้ำ 2 ช้อนโต๊ะ

4. ไข่ขนาดใหญ่ 2 ฟอง(อุณหภูมิห้อง)

5. วนิลา 2 ช้อนชา

6. แป้งเอนกประสงค์(all-purpose) 1, 1/3 ถ้วย

7. ผงโกโก้(แบบไม่หวาน หรือ baking cocoa) ¾ ถ้วย

8. เบกกิ้งพาวเดอร์ ½ ช้อนชา

9. เกลือ ¼ ช้อนชา

10. ถั่วสับหยาบๆ ¾ ถ้วย (อันนี้ใส่ก็ได้-ไม่ใส่ก็ได้นะคะ)
ก่อนอื่นเรามาเตรียมของกันก่อนนะคะ

1. ถาดขนาด 9x13 นิ้ว ทาด้วยเนยให้ทั่วๆ หรือใช้เนยแบบสเปรย์ฉีดให้ทั่วๆ

2. ล่อนแป้ง ผงโกโก้ เบกกิ้งพาวเดอร์ และเกลือเข้าด้วยกัน พักไว้ก่อน

วิธีทำ1. ตัดเนยเป็นชิ้นๆ และใส่ลงในหม้อ ตั้งไฟอ่อนๆ คนบ่อยๆ จนเนยละลาย

2. ในขณะที่เนยยังร้อนๆ อยู่ ใส่น้ำตาลทราย และน้ำเข้าด้วยกัน ใช้ตะกร้อมือคนๆ ให้เข้ากัน

3. ใส่ไข่ และวนิลา คนให้เข้ากันด้วยตะกร้อมือ(แพทแค่ใช้ตะกร้อมือคนๆ วนๆ จนคิดว่าส่วนผสมเข้ากันดีก็หยุด ไม่ได้ใช้เวลามากนักนะคะ)

4. ใส่แป้งที่เตรียมไว้ลงไป คนให้เข้ากัน ไม่ต้องคนนานนะคะ แค่ดูว่าส่วนผสมมันเข้ากันดีก็พอแล้วค่ะ ถ้าคนนานเดี๋ยวมันจะเหนียว จากนั้นก็ใส่ถั่วลงไป คนให้เข้ากัน เสร็จแล้วก็เทใส่ถาดที่เตรียมไว้

5. นำไปอบด้วยไฟ 350F ประมาณ 18-25 นาที(ตามสูตร) แต่อบประมาณ 20 นาทีค่ะ หรือเช็คโดยการใช้ไม้จิ้มลงไปตรงกลางถาด ดึงขึ้นมาให้มีเศษขนมติดมาบ้างนิดหน่อยก็ใช้ได้แล้วค่ะ อันนี้ก็ต้องคอยเช็คดูนะคะ อย่าอบนานเกินไป เดี๋ยวขนมแห้งกินไม่อร่อยค่ะ(เรื่องเวลาในการอบนั้น ไม่ต้องตามกันก็ได้ค่ะ เตาใครเตามัน ให้คอยสังเกตุเองดีกว่า)Chocolate Frosting สำหรับทาหน้าบราวนี่ค่ะ จะทำก็ได้ไม่ทำก็ได้นะคะ แล้วแต่คนชอบค่ะส่วนผสมเนย 1/2 ถ้วย หรือ 113 กรัม ทิ้งไว้ให้นิ่มpowdered sugar(น้ำตาลไอซิ่ง) 3 ถ้วย(ล่อนด้วยตะแกรง)ผงโกโก้แบบไม่หวาน 2/3 ถ้วย(เราใช้ของ Nestle)นมสด 5-6 ช้อนโต๊ะวนิลา 1 ช้อนชาวิธีทำใส่เนย น้ำตาล 1 ถ้วย นมสด 2 ช้อนโต๊ะ และวนิลาลงในถ้วย ตีให้เข้ากันจนเป็นครีม จากนั้นใส่น้ำตาลและนมส่วนที่เหลือลงไป ตีให้เข้ากันจนเป็นครีม *** ถ้าไม่ชอบหวานจะลดน้ำตาลลงบ้างก็ได้นะคะ การทำฟรอสติ้งนั้น สามารถเพิ่มหรือลดนมได้ โดยดูว่าถ้ามันข้นเกินไปก็ให้เติมนมได้อีก โดยค่อยๆ ใส่ทีละนิด แต่ถ้าเหลวเกินไปก็ให้เติมน้ำตาล โดยค่อยๆ ใส่ทีละนิดเช่นกันค่ะ

...BROWNIE TART...

ใครที่ชอบกินบราวนี่รสชาติเข้มข้น หน้ากรอบ เนื้อหนึบๆ ต้องลองทำสูตรนี้ดูค่ะ เป็นสูตรของ INA GARTEN เธอเป็นเชฟคนโปรดจริงๆ ดองสูตรไว้นานแล้วแต่ไม่ได้ทำสักที พอทำแล้วก็ติดใจ เลยต้องป่าวประกาศให้คนที่ชอบกินบราวนี่ได้รู้และเอาไปลองทำดูค่ะ

ส่วนผสม


1. เนยจืด(unsalted butter) 6 ช้อนโต๊ะ(ประมาณ 85 กรัม) ตัดเป็นชิ้นๆ จะได้ละลายง่ายๆ ค่ะ


2. Semisweet chocolate chips 3 ถ้วยตวง(แบ่งออกเป็น 2 ถ้วย กับ 1 ถ้วย)


3. ไข่(ขนาดใหญ่) 3 ฟอง ทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้อง


4. น้ำตาลทราย 1 ถ้วย(ถ้าไม่ชอบหวานจะลดลงเหลือ 3/4 ถ้วย ก็ได้นะคะ)


5. ผงกาแฟสำเร็จ(Instant coffee granules) 1 ช้อนโต๊ะ(ถ้าให้เด็กกินด้วย ต้องลดลงบ้างนะคะ)

6. วนิลา ½ ช้อนชา

7. แป้งเอนกประสงค์ ½ ถ้วย

8. เบกกิ้งพาวเดอร์ ¼ ช้อนชา

9. เกลือ ¼ ช้อนชา

10. ถั่ววอลนัทสับหยาบๆ 1 ถ้วยส่วนผสมของซอสช๊อกโกแล็ต(อันนี้จะทำก็ได้ หรือไม่ทำก็ได้นะคะ)Semisweet chocolate chips ¼ ถ้วย

Heavy Cream 3 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำเปิดเตาอบวอร์มไว้เลยนะคะ ที่ 350F

1. ล่อนแป้ง เบกกิ้งพาวเดอร์ และใส่เกลือลงไป คนให้เข้ากัน เตรียมไว้ก่อน
2. ใช้เนยหรือสเปรย์ทาถาด tart pan แบบถอดก้นได้ และโรยด้วยแป้งให้ทั่วๆ ขนมจะได้ไม่ติดถาดนะคะการใช้ถาดแบบถอดก้นได้นั้น เราควรห่อถาดด้านนอกด้วยอลูมินั่มฟอยล์ เพื่อกันการรั่วซึมของ batter และก่อนนำอบ แนะนำให้วาง Tart pan ลงบนถาดขนาดใหญ่อีกทีหนึ่ง เพื่อสะดวกในการเคลื่อนย้ายค่ะ

*** ถ้าไม่มี tart pan ก็ใช้ถาดอบเค้กแบบกลมขนาด 9 นิ้ว หรือถาดสี่เหลี่ยมขนาด 8x8 แทนก็ได้ค่ะ และปูด้านในด้วยอลูมินั่มฟอยล์ โดยให้เหลือขอบฟอยล์ไว้สัก 1-2 นิ้ว เพื่อความสะดวกในการยกขนมออกจากถาดและทำให้ง่ายต่อการตัดขนมด้วยค่ะ ทาเนยหรือสเปรย์ โรยด้วยแป้งให้ทั่วๆ ขนมจะได้ไม่ติดถาด)
3. ต่อมาเราจะทำการตุ๋นช๊อกโกแล็ต โดยใส่น้ำลงในหม้อพอสมควรอย่าให้เยอะนัก ตั้งไฟไม่ต้องใช้ไฟแรงมาก วางถ้วยแก้วลงไปบนปากหม้อ อย่าให้ก้นถ้วยโดนน้ำ จากนั้นก็ใส่เนยและช๊อกฯ ชิพ 2 ถ้วย ลงไป คนจนช๊อกฯ และเนยละลายเป็นเนื้อเดียวกัน ปิดไฟและยกถ้วยออก ทิ้งไว้ให้ช๊อกฯ เย็น(อย่าเพิ่งรีบหันไปตีไข่นะคะ เพราะกว่าช๊อกฯ จะเย็นก็ใช้เวลาพอสมควร)

4. ใส่ไข่ น้ำตาลทราย ผงกาแฟ วนิลา ลงในถ้วยผสม ใช้หัวตีรูปใบไม้ ตีด้วยความเร็วสูง ประมาณ 3 นาที(ไม่ต้องตีนานเหมือนตีเค้กนะคะ)

5. ใส่ช๊อกฯ ที่ละลายไว้ลงไป ตีให้เข้ากัน
6. ใส่แป้ง ผงฟู และเกลือที่เตรียมไว้ลงไป ตีด้วยความเร็วต่ำ จนส่วนผสมเข้ากันดี
7. ใส่ช๊อกฯ ชิพ 1 ถ้วย(จะใส่แค่ 1/2 ถ้วยก็ได้ค่ะ) และถั่ววอลนัท 1 ถ้วย ใช้พายยางคนให้เข้ากัน

8. เทส่วนผสมลงในถาดที่เตรียมไว้ อบด้วยไฟ 350F ประมาณ 35-40 นาที(ตามสูตรเดิม) ใช้เวลาอบพอๆ กับเวลาที่สูตรให้มาค่ะแต่อย่างไรก็ต้องเช็คด้วยตัวเองจะดีกว่านะคะ โดยใช้ไม้หรือ cake tester จิ้มลงไปตรงกลาง แล้วดึงขึ้นมาให้มีเศษขุยๆ ติดมากับปลายไม้ เนื้อดูฉ่ำๆ หน่อยเป็นอันว่าใช้ได้ แต่ถ้าปลายไม้เปียกเป็นน้ำเหลวๆ อันนี้ยังไม่สุกนะคะ ต้องอบต่อ แต่อย่างไรก็อย่าให้สุกจนเกินไป(DO NOT OVER BAKE) เพราะจะทำให้เนื้อบราวนี่แห้งและร่วน กินไม่อร่อย อย่างไรก็ลองฝึกสังเกตุเอาเองค่ะ


ฉ่ำๆ แบบนี้น่ากินมั๊ยคะ

รูปนี้อบเสร็จแล้วค่ะ


Ina บอกไว้ว่า หน้าบราวนี่อาจจะแตก(the top may crack) ของเราก็มีรอยแตก แต่ไม่เป็นไรค่ะ ความสวยไม่สำคัญเท่าความอร่อย เพราะบราวนี่สูตรนี้หน้ากรอบจริงๆ อยากจะเซาะแซะกินแต่ส่วนหน้า ก็มันกรอบและกรุบดีอ่ะค่ะ ยิ่งตอนใช้มีดตัด โอ้โห...เหมือนวัยรุ่นกำลังแตกเนื้อสาวเลยค่ะเรื่องรสชาตินั้น บราวนี่สูตรนี้ไม่เหมาะกับเด็กเล็กๆ นะคะ เพราะกาแฟเข้นข้นมาก ตอนอบหอมตลบอบอวนไปทั้งบ้าน ถ้าอยากให้เด็กกินด้วย อันนี้แนะนำให้ลดกาแฟลงหน่อยนะคะ) แต่ถ้าใครชอบความเข้มข้นของกาแฟ ก็ไม่ต้องปรับเปลี่ยนนะคะ ทำตามสูตรได้เลยค่ะอบเสร็จแล้วอย่าเพิ่งรีบกินนะคะ อย่างไรก็รอให้เย็นสนิทก่อน เพราะถ้ากินตอนร้อนๆ จะรู้สึกว่าขนมมันหวานไปหน่อย แต่พอเย็นแล้ว กลับรู้สึกว่ารสชาติพอดี

แบบนี้ไม่ราดช๊อกโกแล็ตซอสค่ะ



วิธีทำช๊อกโกแล็ตซอส(ซอสนี้จะทำก็ได้ หรือไม่ทำก็ได้นะคะ)ใช้วิธีเดียวกับการตุ๋นช๊อกโกแล็ตค่ะ โดยใส่ช๊อกฯ ชิพ และ heavy cream ลงในถ้วยแก้ว คนบ่อยๆ จนเป็นเนื้อเดียวกัน ถ้าข้นไปให้เติมครีมได้อีกค่ะ แต่ก็ระวังอย่าให้ใสเกินนะคะ










































































































































































วันพฤหัสบดีที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2553

cake (อีกแล้ว) ชาเย็น ของ เด็กเย็นชา






























จริงๆแล้วเค้กอันนี้ดองไว้นานแล้วเหมือนกันค่ะ ไม่ค่อยได้ลงบล็อคเลยถ้าปล่อยนานกว่านี้กลัวมันจะบูดซะก่อน อิอิ วันนี้เลยจับมาลงบล็อคซะเลย
ส่วนผสม (1)
แป้งเค้ก 1+1/3 ถ้วย
ผงฟู 1+1/2 ช.ช
นมผง 1+1/2 ช.ต
น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
เกลือ 1/2 ช.ช
น้ำมันพืช 1/3 ถ้วยไ
ข่แดง 4 ฟอง
น้ำชาไทยชงแบบเข้มข้น 90 กรัม หรือ 1/3 ถ้วย + 2 ช.ต
ส่วนผสม (2)
ไข่ขาว 4 ฟอง
น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
ครีมออฟทาร์ทาร์ หรือ น้ำมะนาว 1/2 ช.ช
วิธีทำ
- เตรียมพิมพ์ ทาไขมัน ปูกระดาษไข วอร์มเตาอบที่ 180 องศา ไฟ บน-ล่าง
- ร่อนแป่ง+ผงฟู+นมผง 2 ครั้ง ลงในอ่างผสม เติมน้ำตาล+เกลือ คนให้เข้ากัน- เติมน้ำมันพืช+ไข่แดง+น้ำชาไทย ลงในแป้ง ใช้ตระกร้อมือคนให้เข้ากันแป้งไม่เป็นเม็ด พักไว้ส่วนผสมที่ (2)
ตีไข่ขาวให้ตั้งยอด

- นำส่วนผสมของไข่ขาว ไปตล่อมในไข่แดงโดยแบ่งใส่สามครั้ง

- ตล่อมอย่างเบามือ ให้ส่วนผสมเข้ากัน ระวังไข่จะยุบตัว

-เทส่วนผสมลงในพิมพ์ที่ทาไขมันปูกระดาษไข -ก่อนเข้าอบเคาะก้นพิมพ์เบาๆเพื่อไล่ฟองอากาศ-ใช้เวลาในการอบ 40-45 นาที หรือจนขนมสุกดี แล้วแต่เตาใครเตามันนะคะ

พอตัวเค้กสุกนำออกจากเตากระแทกพิมพ์ลงบนโต๊ะ 1 ครั้งเพื่อให้โคลงสร้างอยู่ตัว แล้วเอาเค้กออกจากพิมพ์ พักไว้ให้เย็น แล้วค่อยสไลด์เค้กเป็นชั้นตามต้องการ


แล้วหันมาทำหน้าเค้กกันต่อค่ะ (ขอยกจากบล็อคพี่ จุ๋ม มาเลยนะค่ะ)
(ส่วนที่ 1)
ผงวุ้น 3/4 ช้อนชา วิธีการตวงคือ 1/2 ช้อนชา + 1/4 ช้อนชาผงชาไทยที่เหลือจากชงสำหรับทำตัวเค้กเมื่อกี้ และใส่เพิ่มไปอีก 3 ช้อนโต๊ะน้ำร้อนจัด 1 ถ้วยตวงของเหลว
นมสด 100 กรัม

น้ำตาลทราย 100 กรัม

วิปปิ้งครีม 150 กรัม

(ส่วนที่ 2)
แป้งข้าวโพด 30 กรัม

นมข้นจืด 110 กรัม
-เริ่มด้วย ต้มน้ำร้อนจัด 1 ถ้วยตวงของเหลว แล้วเอาผงชาไทยที่เหลือจากการทำตัวเค้กเมื่อกี้ใส่ชามหรือภาชนะอะไรก็ได้ ตามด้วยผงชาไทยเพิ่มไปอีก 3 ช้อนโต๊ะ ใส่น้ำร้อนจัดลงไป คน ๆ ให้ผงชาออกสีและกลิ่นจัด ๆ กรองเหมือนกันกับตอนแรกค่ะ ชั่งให้ได้ 150 กรัม ตัวผงชาจะดูดน้ำนะคะ ไม่ต้องกลัวน้ำจะเยอะเกินไป กรองแล้วจะได้เกิน 150 กรัมไม่มากค่ะ แล้วเทใส่หม้อใบย่อมๆ

- ตามด้วยส่วนผสมที่เหลือของส่วนที่ 1 นะคะ ผงวุ้น นมสด น้ำตาลทราย วิปปิ้งครีม คนรวมให้เข้ากันส่วนที่ 2 นมข้นจืดและแป้งข้าวโพดใส่ถ้วยคนรวมกัน หรือจะใช้วิธีใส่ถุงพลาสติก รัดยางและเขย่าให้เข้ากันก็ได้ค่ะ ยังไงก็ได้ แต่อย่าให้แป้งเป็นก้อนเนยสดหั่นเป็นชิ้นเล็กไว้
นำหม้อชาไทยและส่วนผสมที่เราเทรวมกันไว้เมื่อกี้ตั้งไฟค่ะ ไม่ใช่ไฟอ่อน และไม่ใช่ไฟแรง กลาง ๆ ค่ะ ใช้ตะกร้อมือคน ๆ ตลอดให้มันเดือดสักพักหากว่าเดือดแรงไป ปิดเตาไปสัก 5 นาที จึงค่อยเทแป้งข้าวโพดที่ผสมกับนมข้นจืดไว้ แล้วคนให้เข้ากัน ค่อยเปิดไฟต่อนะคะ เพราะหากว่าเดือดจัดจนความร้อนในหม้อสูงมาก เทแป้งข้าวโพดที่ผสมกับนมข้นจืดลงไปเลยมันจะข้นเร็วมาก เรียกว่าทันทีทันใดเลยก็ได้ แป้งอาจเป็นก้อนและไม่สุกได้ลดไฟลงอ่อนแล้วเทแป้งข้าวโพดที่ผสมกับนมข้นจืดไว้ลงไปตอนนี้ให้ใช้ไฟอ่อน คนไปเรื่อย ๆ ส่วนผสมจะเริ่มข้นขึ้นอย่าใช้ไฟแรงมันจะไหม้ง่ายมากค่ะคนไปเรื่อย ๆ จนส่วนผสมข้นหนืด ยกตะกร้อมือขึ้นมามียาง ๆ ติดปลายตะกร้อ และเริ่มเห็นรอยตะกร้อมือในหม้อ ยกลงจากเตาใส่เนยสดลงไป แล้วคนให้เนยละลาย คน ๆ ต่อไปเรื่อย ๆ ให้ส่วนผสมเย็นลง รอยตะกร้อมือจะชัดขึ้น ส่วนผสมจะข้นขึ้นแล้วก็นำไปราดบนตัวเค้กได้เลยค่ะรอให้เค้กเซตตัวซะหน่อย แล้วก็ได้เวลาตัดๆๆๆๆแว้วววว

เค้กช็อคโกแล็ตหน้านิ่ม....สูตร... เชฟ อุ๋มอิ๋ม




สูตรนี้พี่หนึ่งของเราชอบทานมากมาย น้องสาวคนนี้จะทำให้พี่กินบ่อยๆเลย อย่าเบื่อก่อนหล่ะจ๊ะ (อยากให้พี่กลับมาทำงานใกล้ๆบ้านเรานะจะได้เจอกันบ่อยๆ คุยกันบ่อยๆ ทำขนมให้พี่สาวคนนี้กินบ่อยๆ รักพี่คนนี้มากมายเช่นเดิมค่ะ) อ่อ เกือบลืมต้องขอขอบคุณสูตรแสนวิเศษจากเชฟอุ๋มอิ๋มที่พี่เกดนำมาโพสไว้ให้เตยได้ดูและทดลองทำตามจนได้เค้กที่ถูกใจเตยและถูกปากคนที่บ้านนะคะ
สูตรเค้กช็อคโกแลต

- ตัวเค้กส่วนที่ 1

1. แป้งเค้ก 80 กรัม

2. ผงฟู 1/4 ช้อนชา

3. เบคกิ้งโซดา 1/2 ช้อนชา

4. วานิลลา 1 ช้อนชา

5. เกลือป่น 1/4 ช้อนชา

6. ผงโกโก้ 25 กรัม

7. น้ำตาลทรายป่น 90 กรัม


ส่วนผสม - ตัวเค้กส่วนที่ 2

1. น้ำ 50 กรัม

2. นมข้นจืด 25 กรัม

3. น้ำมะนาว 1 ช้อนชา

4. น้ำมันพืช 65 กรัม

5. ไข่แดง 2 ฟอง


ส่วนผสม - ตัวเค้กส่วนที่ 3

1. ไข่ขาว 2 ฟอง

2. น้ำตาลทรายป่น 45 กรัม

3. ครีมออฟทาทาร์ 1/4 ช้อนชา

ขั้นตอนการทำ

1. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส
2. เตรียมพิมพ์กลมขนาด 8 นิ้ว ปูกระดาษไข ไม่ทาไขมัน
3. ร่อนส่วนผสม ตัวเค้กส่วนที่ 1 เข้าด้วยกันในอ่างผสม ทำบ่อตรงกลางของส่วนผสม เพื่อเตรียมใส่ส่วนผสม ตัวเค้กส่วนที่ 2
4. นำส่วนผสม ตัวเค้กส่วนที่ 2 ใส่ลงในบ่อแป้ง ( ตัวเค้กส่วนที่ 1 ) ใช้ตะกร้อมือคนให้เข้ากัน คนพอเข้ากัน แล้วพักไว้
5. นำไข่ขาว และ ครีมออฟทาทาร์ ใส่โถตี ตีด้วยความเร็วสูงสุด ( Kitchen Aid Speed 10 )
6. ตีจนฟองขึ้นหยาบ ๆ จึงค่อย ๆ ใส่ น้ำตาลทรายป่นลงไปจนหมด
7. ตีจนไข่ขาวตั้งยอด
8. นำไข่ขาวที่ตั้งยอดมาตะล่อมกับส่วนผสมในข้อ 4. ให้เข้ากันโดยตะกร้อมือ อย่างเบามือ
9. เทใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้ อบนาน 35 นาที หรือจนกระทั่งเค้กสุก
สูตรช็อคโกแลตหน้านิ่ม
ส่วนผสม - หน้าเค้กส่วนที่ 1

1. ผงวุ้น 1 ช้อนชา
2. น้ำ 300 กรัม
3. นมข้นจืด 200 กรัม
4. น้ำตาลทราย 200 กรัม
5. โกโก้ 50 กรัมส่วนผสม

- หน้าเค้กส่วนที่ 2
1. แป้งข้าวโพด 40 กรัม
2. นมข้นจืด 150 กรัม

ส่วนผสม - หน้าเค้กส่วนที่ 3
1. เนยสด 150 กรัม
2. เหล้ารัม 1 ช้อนโต๊ะ
ขั้นตอนการทำ

1. นำส่วนผสมหน้าเค้กส่วนที่ 1 ใส่หม้อ ตั้งไฟอ่อน ๆ คนด้วยตะกร้อมือ
2. นำส่วนผสมหน้าเค้กส่วนที่ 2 ใส่ถุง ผสมให้เข้ากัน
3. ส่วนผสมที่ 1 จะเริ่มเดือด แล้วจึงใส่ส่วนผสม หน้าเค้กส่วนที่ 2 ใส่ลงไป พร้อมกับคนให้เข้ากัน คนอย่าหยุดมือ จนส่วนผสมข้นเท่าที่ต้องการ
4. ยกลงจากเตา ใส่ส่วนผสม หน้าเค้กส่วนที่ 3 คนให้เข้ากัน
5. คนต่อจนส่วนผสมอุ่น แล้วนำไปราด ตัวเค้กที่เตรียมไว้












Red Velvet Cupcakes .... คัพเค้กสีแดง บ่งบอกความในใจในวันวาเลนไทน์ค่ะ








Red Velvet Cupcakes เป็นคัพเค้กสีแดงค่ะ เป็นเค้กที่ทำกันทางใต้ของอเมริกา สูตรเอามาจาก Johnnie Gabriel หนังสือ Cooking ithe South ซึ่งคุณ เกด ได้โพสไว้ให้อีกทีนึงนะเจ้าคะ ขอขอบพระคุณสำหรับสูตรดีๆจ๊ะ



Red Velvet Cupcakes
Adapted From : Johnnie Gabriel ,Cooking in the South Book
จำนวนที่ได้ : คัพเค้ก 12 ถ้วย
1. แป้งเค้ก 150 กรัม
2. เบคกิ้งโซดา 1/2 ชช.
3. โกโก้ 1/2 ชต.
4. น้ำมันพืช 3/4 ถต.
5. น้ำตาล 150 กรัม
6. ไข่ไก่ เบอร์ 1 11/2 ฟอง
7. น้ำส้มสายชู 1/2 ชช.
8. วานิลลา 1/2 ชช.
9. สีผสมอาหารสีแดง 1 ช้อนโต๊ะ
10. บัตเตอร์มิลค์ 120 กรัม (นมสด 120 กรัมผสมน้ำมะนาว 1/2 ชต.)
Cream Cheese Frosting
1. เนยสดรสจืด 115 กรัม
2. ครีมชีส 250 กรัม,อุณหภูมิห้อง
3. น้ำตาลไอซิ่ง 115 กรัม
ขั้นตอนการทำ
1. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส
2. ร่อนแป้ง เบคกิ้งโซดา และโกโก้เข้าด้วยกัน

3. ผสมสีผสมอาหารสีแดง วานิลลา น้ำส้มสายชูเข้าด้วยกัน ในอ่างใบเล็ก

4. ผสม ไข่ไก่ น้ำมันพืช และน้ำตาล เข้าด้วยกัน ตีให้เข้ากันด้วยตะกร้อมือ จากนั้นจึงใส่สีผสมอาหารที่เตรียมไว้ลงไป คนส่วนผสมจนเข้ากัน จากนั้นจึงแบ่งแป้งเป็น 3 ส่วน นม 2 ส่วน โดยใส่แป้งสลับกับนมลงไปในส่วนผสมค่ะ แป้ง >> นม >> แป้ง >> นม >> แป้ง คนให้เข้ากัน จากนั้นจึงตักใส่พิมพ์ นำเข้าอบที่ 180 องศาเซลเซียส นาน 20-24 นาที จนเค้กสุกค่ะ
5. ช่วงระหว่างี่รอเค้กสุกก็มาทำ ครีมชีสฟรอสติ้ง โดยนำเนยและครีมชีสมาตีให้เข้ากัน จากนั้นจึงใส่น้ำตาลไอซิ่งโดยแบ่งใส่ 2-3 ครั้ง ตีให้เข้ากันดี จึงใส่วานิลา ลงไป คนให้เข้ากันจากนั้นจึงนำมาใช้ปาดหน้าเค้กที่อบสุกแล้วค่ะ







เค้กทอฟฟี่สูตรโปรดของน้องหน่อ



เค้กทอฟฟี่สูตรนี้เป็นสูตรที่น้องรักชอบทานมากๆเลย ทำทีไรเป็นได้รับคำชมซะทุกรอบ โดยเฉพาะน้องหน่อหลับตาพริ้มเลยเวลาทาน น่าปลื้มใจจังจ๊ะน้องรัก พี่สาวคนนี้จะทำให้น้องทานบ่อยๆนะจ๊ะ สัญญาจ๊ะ


ส่วนผสมตัวเค้ก


1.แป้งเค้ก 125 g


2.กาแฟผง 2 ชต


3.ผงโกโก้ 2 ชต


4.น้ำตาลทราย 200 g


5.ผงฟู 2 ชช


6.เนยจืด 150 g


7.ไข่ไก่เบอร์ใหญ่ 4 ฟอง (ตรีใช้เบอร์ 2)


8.เกลือ 1/8 ชช


วิธีทำตัวเค้ก


1.ร่อนแป้ง ผงฟู ผงโกโก้ กาแฟผง 3 รอบค่ะ


2.ละลายเนยสด ตรีใช้ไมโครเวฟประมาณ 2 นาที พักไว้


3.ตอกไข่ใส่โถตี ตีด้วยสปีดสูง พอขึ้นฟูก็ใส่เกลือ และค่อย ๆ ใส่น้ำตาลทรายจนหมด(ตรีใส่ครั้งละประมาณ 1 ชต ค่ะ)


4.ตีไข่จนฟูข้น จนฟองละเอียด (ใช้เวลาประมาณ 15 นาที)


5.นำส่วนผสมแป้งที่ร่อนแล้วใส่ลงใส่ไข่ ใส่ทีเดียวเลยค่ะ (ถ้าให้ดี ร่อนแป้งลงในโถอีกทีก็ดีค่ะ จะได้เคกฟูขึ้นดีทีเดียว)


6.ตะล่อมส่วนผสมให้เข้ากันเบา ๆ ด้วยพายยาง พลิกไปพลิกมาหน่อยค่ะ


7.นำเนยที่ลายไว้ค่อย ๆ เทเป็นสาย คนไปด้วยระหว่างเทเนยลงส่วนผสม (เนยต้องอุ่น ๆ นะคะ อย่าให้เนยเย็นเชียว)


8.เทใส่พิมพ์ที่ ทาเนยแล้วปูกระดาษไข ใช้ไม้จิ้มฟันลาก ๆ ส่วนผสมเพื่อไล่ฟองอากาศอย่ากระแทกนะคะ เดี๋ยวยุบ


9.อบที่อุณหภูมิ 175 องศา ประมาณ 30 นาทีค่ะ(ไม่แน่ใจเรื่องเวลา ลองแตะดูหน้าเค้กถ้าเด้ง ๆ ก็ลองเอาไม้จิ้มฟันจิ้มดูถ้าไม่มีส่วนผสมติดมาก็ใช้ได้ค่ะ)


10.ตั้งส่วนผสมทิ้งไว้ให้เย็นแล้วนำหน้าทอฟฟี่มาราด