วันอังคารที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2553

...BROWNIE TART...

ใครที่ชอบกินบราวนี่รสชาติเข้มข้น หน้ากรอบ เนื้อหนึบๆ ต้องลองทำสูตรนี้ดูค่ะ เป็นสูตรของ INA GARTEN เธอเป็นเชฟคนโปรดจริงๆ ดองสูตรไว้นานแล้วแต่ไม่ได้ทำสักที พอทำแล้วก็ติดใจ เลยต้องป่าวประกาศให้คนที่ชอบกินบราวนี่ได้รู้และเอาไปลองทำดูค่ะ

ส่วนผสม


1. เนยจืด(unsalted butter) 6 ช้อนโต๊ะ(ประมาณ 85 กรัม) ตัดเป็นชิ้นๆ จะได้ละลายง่ายๆ ค่ะ


2. Semisweet chocolate chips 3 ถ้วยตวง(แบ่งออกเป็น 2 ถ้วย กับ 1 ถ้วย)


3. ไข่(ขนาดใหญ่) 3 ฟอง ทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้อง


4. น้ำตาลทราย 1 ถ้วย(ถ้าไม่ชอบหวานจะลดลงเหลือ 3/4 ถ้วย ก็ได้นะคะ)


5. ผงกาแฟสำเร็จ(Instant coffee granules) 1 ช้อนโต๊ะ(ถ้าให้เด็กกินด้วย ต้องลดลงบ้างนะคะ)

6. วนิลา ½ ช้อนชา

7. แป้งเอนกประสงค์ ½ ถ้วย

8. เบกกิ้งพาวเดอร์ ¼ ช้อนชา

9. เกลือ ¼ ช้อนชา

10. ถั่ววอลนัทสับหยาบๆ 1 ถ้วยส่วนผสมของซอสช๊อกโกแล็ต(อันนี้จะทำก็ได้ หรือไม่ทำก็ได้นะคะ)Semisweet chocolate chips ¼ ถ้วย

Heavy Cream 3 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำเปิดเตาอบวอร์มไว้เลยนะคะ ที่ 350F

1. ล่อนแป้ง เบกกิ้งพาวเดอร์ และใส่เกลือลงไป คนให้เข้ากัน เตรียมไว้ก่อน
2. ใช้เนยหรือสเปรย์ทาถาด tart pan แบบถอดก้นได้ และโรยด้วยแป้งให้ทั่วๆ ขนมจะได้ไม่ติดถาดนะคะการใช้ถาดแบบถอดก้นได้นั้น เราควรห่อถาดด้านนอกด้วยอลูมินั่มฟอยล์ เพื่อกันการรั่วซึมของ batter และก่อนนำอบ แนะนำให้วาง Tart pan ลงบนถาดขนาดใหญ่อีกทีหนึ่ง เพื่อสะดวกในการเคลื่อนย้ายค่ะ

*** ถ้าไม่มี tart pan ก็ใช้ถาดอบเค้กแบบกลมขนาด 9 นิ้ว หรือถาดสี่เหลี่ยมขนาด 8x8 แทนก็ได้ค่ะ และปูด้านในด้วยอลูมินั่มฟอยล์ โดยให้เหลือขอบฟอยล์ไว้สัก 1-2 นิ้ว เพื่อความสะดวกในการยกขนมออกจากถาดและทำให้ง่ายต่อการตัดขนมด้วยค่ะ ทาเนยหรือสเปรย์ โรยด้วยแป้งให้ทั่วๆ ขนมจะได้ไม่ติดถาด)
3. ต่อมาเราจะทำการตุ๋นช๊อกโกแล็ต โดยใส่น้ำลงในหม้อพอสมควรอย่าให้เยอะนัก ตั้งไฟไม่ต้องใช้ไฟแรงมาก วางถ้วยแก้วลงไปบนปากหม้อ อย่าให้ก้นถ้วยโดนน้ำ จากนั้นก็ใส่เนยและช๊อกฯ ชิพ 2 ถ้วย ลงไป คนจนช๊อกฯ และเนยละลายเป็นเนื้อเดียวกัน ปิดไฟและยกถ้วยออก ทิ้งไว้ให้ช๊อกฯ เย็น(อย่าเพิ่งรีบหันไปตีไข่นะคะ เพราะกว่าช๊อกฯ จะเย็นก็ใช้เวลาพอสมควร)

4. ใส่ไข่ น้ำตาลทราย ผงกาแฟ วนิลา ลงในถ้วยผสม ใช้หัวตีรูปใบไม้ ตีด้วยความเร็วสูง ประมาณ 3 นาที(ไม่ต้องตีนานเหมือนตีเค้กนะคะ)

5. ใส่ช๊อกฯ ที่ละลายไว้ลงไป ตีให้เข้ากัน
6. ใส่แป้ง ผงฟู และเกลือที่เตรียมไว้ลงไป ตีด้วยความเร็วต่ำ จนส่วนผสมเข้ากันดี
7. ใส่ช๊อกฯ ชิพ 1 ถ้วย(จะใส่แค่ 1/2 ถ้วยก็ได้ค่ะ) และถั่ววอลนัท 1 ถ้วย ใช้พายยางคนให้เข้ากัน

8. เทส่วนผสมลงในถาดที่เตรียมไว้ อบด้วยไฟ 350F ประมาณ 35-40 นาที(ตามสูตรเดิม) ใช้เวลาอบพอๆ กับเวลาที่สูตรให้มาค่ะแต่อย่างไรก็ต้องเช็คด้วยตัวเองจะดีกว่านะคะ โดยใช้ไม้หรือ cake tester จิ้มลงไปตรงกลาง แล้วดึงขึ้นมาให้มีเศษขุยๆ ติดมากับปลายไม้ เนื้อดูฉ่ำๆ หน่อยเป็นอันว่าใช้ได้ แต่ถ้าปลายไม้เปียกเป็นน้ำเหลวๆ อันนี้ยังไม่สุกนะคะ ต้องอบต่อ แต่อย่างไรก็อย่าให้สุกจนเกินไป(DO NOT OVER BAKE) เพราะจะทำให้เนื้อบราวนี่แห้งและร่วน กินไม่อร่อย อย่างไรก็ลองฝึกสังเกตุเอาเองค่ะ


ฉ่ำๆ แบบนี้น่ากินมั๊ยคะ

รูปนี้อบเสร็จแล้วค่ะ


Ina บอกไว้ว่า หน้าบราวนี่อาจจะแตก(the top may crack) ของเราก็มีรอยแตก แต่ไม่เป็นไรค่ะ ความสวยไม่สำคัญเท่าความอร่อย เพราะบราวนี่สูตรนี้หน้ากรอบจริงๆ อยากจะเซาะแซะกินแต่ส่วนหน้า ก็มันกรอบและกรุบดีอ่ะค่ะ ยิ่งตอนใช้มีดตัด โอ้โห...เหมือนวัยรุ่นกำลังแตกเนื้อสาวเลยค่ะเรื่องรสชาตินั้น บราวนี่สูตรนี้ไม่เหมาะกับเด็กเล็กๆ นะคะ เพราะกาแฟเข้นข้นมาก ตอนอบหอมตลบอบอวนไปทั้งบ้าน ถ้าอยากให้เด็กกินด้วย อันนี้แนะนำให้ลดกาแฟลงหน่อยนะคะ) แต่ถ้าใครชอบความเข้มข้นของกาแฟ ก็ไม่ต้องปรับเปลี่ยนนะคะ ทำตามสูตรได้เลยค่ะอบเสร็จแล้วอย่าเพิ่งรีบกินนะคะ อย่างไรก็รอให้เย็นสนิทก่อน เพราะถ้ากินตอนร้อนๆ จะรู้สึกว่าขนมมันหวานไปหน่อย แต่พอเย็นแล้ว กลับรู้สึกว่ารสชาติพอดี

แบบนี้ไม่ราดช๊อกโกแล็ตซอสค่ะ



วิธีทำช๊อกโกแล็ตซอส(ซอสนี้จะทำก็ได้ หรือไม่ทำก็ได้นะคะ)ใช้วิธีเดียวกับการตุ๋นช๊อกโกแล็ตค่ะ โดยใส่ช๊อกฯ ชิพ และ heavy cream ลงในถ้วยแก้ว คนบ่อยๆ จนเป็นเนื้อเดียวกัน ถ้าข้นไปให้เติมครีมได้อีกค่ะ แต่ก็ระวังอย่าให้ใสเกินนะคะ










































































































































































ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น